สิ่งที่ต้องทำเพื่อนำไปสู่การสื่อสารข้ามบล็อกเชนที่สามารถสเกลได้

หัวใจสำคัญของการสื่อสารข้ามบล็อกเชนนั้นคือการที่เครือข่ายที่แตกต่างกันสามารถหาวิธีในการสื่อสารโดยใช้ภาษาเดียวกันได้ เราจะมาเจาะลึกและมาดูกันว่าโปรโตคอลของ Axelar ทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาในการสื่อสารข้ามเชนแบบที่สามารถสเกลได้ (Scalable Cross-Chain Communication)

1. การเชื่อมต่อกันแบบ Plug-and-Play

Plug-and-Play หมายถึงการที่คุณเชื่อมต่อเข้ากับระบบหนึ่งแล้วสามารถใช้งานมันได้ทันทีเลย ผู้สร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชนไม่ควรต้องมาทำงานหนักเพื่อทำให้แพลตฟอร์มของตัวเองใช้ภาษาเฉพาะบางภาษาในการสื่อสารข้ามเชน บล็อกเชนที่มีอยู่หรือเกิดขึ้นมาใหม่ควรจะสามารถต่อ (Plug) เข้ากับโปรโตคอลที่ใช้ในการสื่อสารข้ามบล็อกเชนได้อย่างง่ายดายและใช้งานได้เลย (Play) โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก

2.Cross-chain Routing

Routing มีความหมายว่า การค้นหาเส้นทาง ซึ่งทำให้ Routing Protocol ที่ใช้กันในปัจจุบันนั้นหมายถึงโปรโตคอลที่ใช้เลือกเส้นทางเพื่อทำให้เราสามารถส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางได้อย่างถูกต้อง สิ่งที่ใช้หลักก็คือจะเป็นการค้นหาที่อยู่ (Address) ของปลายทาง และเส้นทางที่จะส่งข้อมูล (Routing Paths) ไป โปรโตคอลนี้เป็นพื้นฐานที่ทำให้เราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ในปัจจุบัน (ตัวอย่างของ Routing โปรโตคอลคือ BGP Border Gateway Protocol) อย่างที่ผมได้กล่าวไปว่าการสื่อสารข้ามบล็อกเชนก็เหมือนกับการที่บล็อกเชนหลายตัวเชื่อมโยงกันเกิดเป็นเครือข่ายเพื่อส่งข้อมูล (ผมอธิบายไว้คร่าวๆ ที่นี่) เหมือนกับอินเทอร์เน็ตที่ในปัจจุบัน ดังนั้นการที่บล็อกเชนจะสามารถทำงานร่วมกันได้จึงต้องอาศัยโปรโตคอลที่ทำงานในการค้นหาที่อยู่และค้นหาเส้นทางในการสื่อสารเฉกเช่นดียวกับอินเทอร์เน็ต และเราเรียกมันว่า Cross-chain Routing

3.สามารถอัพเกรดได้ (Upgradability support)

เราได้พูดถึงปัญหาของการอัปเกรดไปแล้วว่า Interoperability หรือการทำงานร่วมกันของบล็อกเชนแบบเก่าจะทำให้เกิดปัญหาเมื่อเราอัพเกรดหรือมีการเปลี่ยนแปลงบนบล็อกเชนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ การอัพเกรดแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งควรจะไม่ส่งผลกระทบหรือควรมีผลกระทบให้น้อยที่สุดต่อการทำงานร่วมกันของบล็อกเชนอื่นๆ

4.ภาษากลางสำหรับแอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชันควรจะมีโปรโตคอลที่เรียบง่ายเพื่อใช้ในการล็อค ปลดล็อค โอนย้ายสินทรัพย์ รวมไปถึงการสื่อสารกับแอปพลิเคชันอื่นๆ โดยไม่ขึ้นกับว่าแอปพลิเคชันนั้นจะอยู่บนเชนไหน โปรโตคอลตัวนี้ไม่ควรขึ้นกับเชนด้วย (ควรจะเป็นโปรโตคอลที่เป็นกลาง) เหมือนกับที่เราใช้ HTTP/HTTPS (ถ้าใครไม่คุ้นตอนใช้อินเทอร์เน็ตเราจะพิมพ์ว่า https://...) ในการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์นั้นๆ ให้ลองคิดว่าเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ก็คือบล็อกเชนที่แอปพลิเคชันนั้นใช้ในการเขียน

ความปลอดภัยที่โปรโตคอลจำเป็นต้องมี

  1. ความเชื่อใจแบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Trust) - เครือข่ายและโปรโตคอลจะต้องเป็นระบบแบบกระจายศูนย์ ซึ่งต้องเปิดและอนุญาตให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมระบบได้อย่างเท่าเทียม

  2. ระบบต้องมีความปลอดภัยที่สูง - ระบบจะต้องรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์และสถานะของระบบการทำงานข้ามเชนที่ประมวลผลสินทรัพย์นี้

  3. มี Liveness ที่สูง - ระบบจะต้องการันตีว่ามี Liveness ที่สูงเพื่อรองรับการทำงานข้ามเชนของแอปพลิเคชัน

Last updated