Cross-Chain Transfer Protocol (CTP)

แปลว่าโปรโตคอลที่ใช้ส่ง (ข้อมูล, สินทรัพย์) ข้ามบล็อกเชน

CTP คือโปรโตคอลระดับแอปพลิเคชันที่ช่วยให้แอปพลิเคชันต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์ของคุณสมบัติข้ามเชนได้ เราจะอธิบายการเชื่อมต่อนี้โดยเน้นไปที่คุณสมบัติการส่งสินทรัพย์ (ตัวอย่างเช่น ที่ใช้งานใน DeFi) แอปพลิเคชันเหล่านี้โดยทั่วไปแล้วประกอบด้วยสามส่วนหลักๆ คือ Frond-end GUI สัญญาอัจฉริยะบนบ็อกเชนหนึ่ง และ โหนดตัวกลางที่คอยประกาศการทำธุรกรรมระหว่าง Frond-end GUI กับสัญญาอัจฉริยะ (GUI คือระบบที่ผู้ใช้งานใช้โต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ผ่านสัญลักษณ์ ภาพ ไอคอน) Frond-end GUI จะโต้ตอบกับกระเป๋าของผู้ใช้งานเพื่อรับเงินฝาก ทำการถอนเงิน และอื่นๆ โดยที่แอปพิลเคชันสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานข้ามเชนได้โดยการเรียกใช้ CTP เพื่อส่งคำขอในการดึงข้อมูลเหมือนกับ HTTP/HTTPS GET/POST (ถ้าใครคุ้นๆ มันคือคำนำหน้าก่อนที่เราจะพิมพ์ชื่อเว็บ https://www...) โดยที่คำขอนี้จะถูกนำมาประมวลผลต่อด้วยชั้น CGP และผลลัพธ์ที่ได้จะถูกส่งกลับคือไปยังผู้ใช้

  • การส่งคำขอดึงข้อมูล CTP - ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันสามารถสร้างแอปพลิเคชันของตนบนบล็อกเชนไหนก็ได้และทำการรวมสัญญาอัจฉริยะเข้ากับบัญชีบริดจ์แบบ Threshold เพื่อดำเนินการส่งคำขอดึงข้อมูล CTP

  • บัญชีบริดจ์แบบ Threshold (Threshold Bridge Account) - สมมติว่าผู้พัฒนาแอปพลิเคชันทำการสร้างสัญญา (Contract) บนเชน A จากนั้นพวกเขาจะทำการอ้างอิงสัญญาบริจด์แบบ Threshold (Threshold Bridge Contract) เพื่อที่จะได้รับความสามารถในการทำงานแบบข้ามเชน โดยที่สัญญานี้จะอนุญาติให้แอปพลิเคชันทำสิ่งเหล่านี้ได้:

    • ลงทะเบียนบล็อกเชนที่ต้องการจะสื่อสารด้วย

    • ลงทะเบียนสินทรัพย์บนบล็อกเชนนั้นที่จะนำมาใช้งาน

    • ดำเนินการกับสินทรัพย์นั้น เช่น รับเงินฝาก ทำการถอนเงิน และฟังก์ชันอื่นๆ (คล้ายกับการเรียกใช้ ERC-20 Contact)

สมมติว่ามีแอปพลิเคชัน DeFi ที่โด่งดังขื่อว่า MapleSwap ซึ่งอยู่บนเชน A ทำการลงทะเบียนบัญชีบริดจ์แบบ Threshold เหล่า Validator ของ Axelar จะร่วมมือกันจัดการกับสัญญานี้บนเชนดังกล่าว และถ้าผู้ใช้ต้องการที่จะทำการฝากเงินเพื่อที่จะทำการซื้อขายระหว่างคู่เหรียญ X และ Y ที่อยู่คนละบล็อกเชนกัน เมื่อผู้ใช้ทำการยืนยันคำขอนี้แล้ว คำขอจะถูกส่งผ่านบัญชีบริดจ์แบบ Threshold เข้าไปยังเครือข่าย Axelar เพื่อทำการประมวลผล จากตรงนี้ขั้นตอนการดำเนินการจะเป็นดังต่อไปนี้:

  1. เครือข่าย Axelar จะเข้าใจว่าแอปพลิเคชันนี้ได้ลงทะเบียนเพื่อที่จะรับการสนับสนุนการทำงานแบบข้ามเชนในด้านสินทรัพย์ เครือข่ายจะทำการสร้างกุญแจสำหรับการฝาก (Deposit Key) เพื่อใช้ประโยชน์จากการเข้ารหัสแบบ Threshold และฉันทามติสำหรับผู้ใช้งานบนเชน A และ B

  2. จากนั้น Public Key ที่เกี่ยวข้องจะถูกส่งคืนมายังแอปพลิเคชันและแสดงผลต่อผู้ใช้โดยที่สามารถใช้กระเป๋าใดก็ได้ในการฝากสินทรัพย์ ต่อมา Secret Key จะถูกแบ่งและส่งไปให้เหล่า Validator ของ Axelar

  3. เมื่อการฝากได้รับการยืนยันแล้ว Axelar จะทำการอัพเดทข้อมูลข้ามเชนเพื่อบันทึกว่าผู้ใช้ได้ทำการฝากสินทรัพย์เรียบร้อยแล้ว

  4. เหล่า Validator ของ Axelar จะดำเนินการใช้โปรโตคอลแบบหลายฝ่าย (Multi-party Protocol) เพื่อที่จะสร้างลายเซ็นแบบ Threshold ที่อนุญาติให้เกิดการอัพเดทของบัญชีบริดจ์แบบ Threshold บนเชน A ที่แอปพลิเคชันนั้นอยู่

  5. คำขอ CTP นั้นจะถูกส่งกลับไปยังสัญญาอัจฉริยะของแอปพลิเคชัน DeFi ซึ่งจะสามารถอัพเดทสถานะ อัพเดทสมการสำหรับผลตอบแทน (Yield) อัตราแลกเปลี่ยน หรือดำเนินการเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับสถานะของแอปพลิเคชัน

ตลอดกระบวนการนี้เครือข่าย Axelar ทำหน้าที่เหมือนกับ Oracle แบบกระจายอำนาจที่ใช้สำหรับการอ่านและเขียน CGP คือชั้นที่ไว้ใช้ค้นหาเส้นทางระหว่างเชน และ CTP คือโปรโตคอลสำหรับแอปพลิเคชัน (Oracle เปรียบเหมือนกับกล่องดำที่ไม่รู้ข้างในมีอะไรแต่เมื่อใส่ปัญหาทางการคำนวณเข้าไปเราจะได้คำตอบกลับมา)

คำขอข้ามเชนเพิ่มเติม

CTP ยังรองรับการทำงานแบบทั่วไปข้ามเชนระหว่างแอปพลิเคชันทั่วทุกๆ บล็อกเชนเช่น:

  • สามารถใช้งาน Public Key Name Services (PKNS) ได้ - โดยที่ PKNS จะทำการเชื่อมโยง (Map) Public Key ไปยังหมายเลขโทรศัพท์หรือชื่อ Twitter Handle (@แล้วก็ตามด้วยชื่อ) โดยที่มีเพียงแค่ไม่กี่โปรเจคเท่านั้นที่คุณสมบัตินี้ในแพลตฟอร์ม เช่น Celo

  • การเรียกใช้งานแอปพลิเคชันข้ามเชน (Cross-chain Application Trigger) - โดยที่แอปพลิเคบนเชน A สามารถอัพเดทสถานะของตัวเองได้ถ้าหากมีแอปพลิเคชันอื่นๆ บนเชน B สอดคล้องกับเงื่อนไขการค้นหา (เช่นอัตราดอกเบี้ย < XX)

  • ความสามารถในการทำงานร่วมกันของสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract composability) - สัญญาอัจฉริยะบนเชน A สามารถอัพเดทสถานะตามสถานะที่ได้ทำสัญญา (Contract) ไว้กับเชน B หรือเรียกใช้คำสั่งเพื่ออัพเดทสัญญาอัจฉริยะบนเชน B

ในระดับสูงคำขอเหล่านี้สามารถถูกประมวลผลร่วมกันได้ เนื่องจากโปรโตคอล CTP CGP และเครือข่าย Axelar สามารถส่งและเขียนข้อมูลสถานะที่สามารถตรวจสอบได้แบบข้ามบล็อกเชน

Composability แปลเป็นไทยจะแปลว่าความสามารถในการแยก หรือย่อยสลายได้ แต่ถ้าใช้กับทางเทคโนโลยีเช่นบล็อกเชนจะหมายถึงการที่แอปพลิเคชันสามารถถูกแยกออกเหมือน Lego แล้วก็มาประกอบรวมกันให้สามารถทำงานร่วมกันได้ตามใจต้องการ

Last updated